ลองจินตนาการถึงโลกที่การอนุมัติใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที ไม่ต้องเสียเวลารอทั้งวัน โลกที่สามารถลงนามสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ได้จากทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องตามล่าขอลายเซ็นอีกต่อไป
ตอนนี้ทำได้แล้วด้วย eSignatures เครื่องมืออันทรงพลังที่จะมาปฏิวัติวิธีการจัดการเอกสารทางธุรกิจของคุณ
เริ่มต้นลงนามด้วย Dropbox Sign
ในวงการธุรกิจดิจิทัลที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ความเชี่ยวชาญด้านประสิทธิภาพไม่ได้เป็นแค่เป้าหมายอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่จำเป็น เมื่อบริษัทต่างๆ ต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกที่การตัดสินใจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและการทำงานจากระยะไกลกลายเป็นเรื่องปกติ ความสามารถในการทำข้อตกลงอย่างรวดเร็วและปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
โลกแห่งโซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มาถึงแล้ว โซลูชันที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงเวิร์กโฟลว์และเพิ่มความคล่องตัว มาค้นพบว่าการผสานรวมโซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จะสามารถเปลี่ยนเวิร์กโฟลว์ของคุณได้อย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของคุณจะมีประสิทธิภาพและล้ำสมัย
ทำไมจึงต้องแปลงเอกสารให้เป็นดิจิทัล ประโยชน์มีมากกว่าที่คิด
การแปลงเอกสารเป็นดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงอีกก้าวสู่การทำงานแบบไร้กระดาษเท่านั้น แต่เป็นกลยุทธ์แบบครบวงจรที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ยกระดับความปลอดภัย และลดต้นทุนในการดำเนินงาน มาดูเหตุผลที่ธุรกิจต่างๆ หันมาใช้การแปลงเอกสารเป็นดิจิทัลกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ประหยัดค่าใช้จ่าย
การศึกษาวิจัยโดย Record Nations เผยว่า ธุรกิจต่างๆ ใช้จ่ายไปกับเอกสารกระดาษถึง 8,000 ดอลลาร์ต่อปี และยังต้องใช้จ่ายประมาณ 8,500 ดอลลาร์ ในการยื่นและจัดเก็บ รวมถึงค่าแรงอีกประมาณ 30,000 ดอลลาร์ ในการจัดการเอกสารเหล่านี้
ผลิตภาพเพิ่มขึ้น
McKinsey & Company รายงานว่าพนักงานใช้เวลาโดยเฉลี่ย 9.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการค้นหาข้อมูลและประมวลผลเอกสารกระดาษ การแปลงเป็นดิจิทัลช่วยให้การเรียกดูข้อมูลทำได้ทันทีโดยการค้นหา ซึ่งช่วยลดเวลาที่พนักงานใช้ไปกับงานธุรการได้อย่างมาก
การรักษาความปลอดภัยที่สูงมากยิ่งขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ตู้เก็บเอกสารแล้ว เอกสารอิเล็กทรอนิกส์จะได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสขั้นสูงและการควบคุมการเข้าถึง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการสูญหายได้ รูปแบบดิจิทัลยังช่วยบันทึกรายละเอียดของแนวทางการตรวจสอบ จึงมั่นใจได้ว่าการเข้าถึงและการแก้ไขทุกครั้งจะถูกบันทึกไว้ และข้อมูลที่สำคัญจะได้รับการปกป้อง
การเข้าถึงเพิ่มขึ้น
สามารถเข้าถึงและลงนามลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และเอกสารดิจิทัลได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งให้ความยืดหยุ่นในการทำงานได้จากทุกที่ ข้อนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมการทำงานระยะไกลและแบบผสมในปัจจุบัน
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การลดการใช้กระดาษช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีส่วนช่วยต่อเป้าหมายด้านความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
ความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่น
โซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์อย่างเช่นที่นำเสนอโดย Dropbox มีเครื่องมือที่สามารถปรับขนาดได้ซึ่งจะเติบโตไปกับธุรกิจของคุณ โดยรองรับฟังก์ชันต่างๆ มากมาย ตั้งแต่การลงนามในเอกสารธรรมดาไปจนถึงข้อตกลงที่ซับซ้อน ทำให้มั่นใจได้ถึงความยืดหยุ่นตามความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย
การอนุมัติที่เร็วขึ้น
เครื่องมือเช่น เครื่องสแกนเอกสาร ช่วยให้ธุรกิจสามารถแปลงเอกสารกระดาษให้เป็น PDF คุณภาพสูงได้ ซึ่งสามารถนำไปแชร์และลงนามได้อย่างง่ายดาย จึงช่วยปรับปรุงกระบวนการอนุมัติและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
การแปลงเอกสารเป็นดิจิทัลไม่ใช่แค่ช่วยประหยัดพื้นที่เท่านั้น
การแปลงเอกสารเป็นดิจิทัลไม่ใช่แค่ช่วยประหยัดพื้นที่ได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างระบบการจัดการเอกสารที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และรองรับอนาคตมากขึ้น ด้วยเครื่องมือและกลยุทธ์ที่เหมาะสม คุณสามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของเอกสารและส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปเรื่อยๆ ได้ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นมากกว่าแค่การจัดเก็บไฟล์ดิจิทัล เพราะยังเป็นการปลดล็อกประสิทธิภาพของลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (eSignature) อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น สมมติเอเจนซี่การตลาดแห่งหนึ่งต้องได้รับการอนุมัติเนื้อหาเกี่ยวกับแคมเปญจากลูกค้าภายในเวลาที่รวดเร็ว แต่การอนุมัติต้องมีลายเซ็นจริงบนเอกสารและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการด้วยตนเอง เวลาทำโปรเจ็กต์ก็จะต้องยืดออกไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้าได้
วิธีแปลงเอกสารให้เป็นดิจิทัลในสามขั้นตอนง่ายๆ
ในแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลนั้น กระบวนการแปลงเอกสารเป็นดิจิทัลและการผสานรวมลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทสำคัญ วิธีที่ดีที่สุดในการแปลงเอกสารของคุณให้เป็นดิจิทัลมีสามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ประเมินขั้นตอนการทำงานปัจจุบันของคุณ
ขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จคือคุณต้องเข้าใจสถานะในปัจจุบันของคุณก่อน การระบุว่าด้านใดที่ยังบกพร่องและต้องปรับปรุงจะช่วยให้คุณกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดในการแปลงเอกสารของคุณให้เป็นดิจิทัลได้ โดยสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณามีดังนี้
ระบุจุดบกพร่อง
ประเมินความท้าทายและจุดบกพร่องในขั้นตอนการทำงานด้านเอกสารในปัจจุบันของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงความล่าช้าในการอนุมัติ กระบวนการยื่นด้วยตนเอง หรือข้อกังวลด้านความปลอดภัย ถามคำถามต่อไปนี้กับตัวเอง
- เราใช้เวลามากเท่าใดไปกับการพิมพ์ การสแกน และการจัดเก็บเอกสารกระดาษ
- การอนุมัติมีความล่าช้าเนื่องจากกระบวนการเส้นทางเดินของเอกสารกระดาษใช่หรือไม่
- การเข้าถึงและรับเอกสารเมื่อมีความจำเป็นทำได้ง่ายเพียงใด
วิเคราะห์ขั้นตอนการทำงาน
จัดทำแผนผังขั้นตอนการทำงานด้านเอกสารเริ่มตั้งแต่การสร้างไปจนถึงการจัดเก็บและการเรียกดู ระบุด้านที่สามารถใช้โซลูชันแบบดิจิทัลแทนกระบวนการที่ต้องดำเนินการด้วยตนเอง
กำหนดวัตถุประสงค์
กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัล เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพ การลดต้นทุน หรือการปรับปรุงการทำงานร่วมกัน วัตถุประสงค์เหล่านี้จะเป็นแนวทางกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลของคุณ
ขั้นตอนที่ 2: เลือกเครื่องมือในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัล
เมื่อคุณระบุโอกาสในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลได้แล้ว ก็ถึงเวลาเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานด้านเอกสารของคุณ ลองพิจารณาเครื่องมือต่อไปนี้
Dropbox Sign
Dropbox Sign เป็นเครื่องมือขั้นสูงในการแปลงเอกสารให้เป็นดิจิทัลและการผสานรวมลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพในการจัดการเอกสารอย่างราบรื่น คุณสามารถอัปโหลดเอกสารในรูปแบบต่างๆ แล้วส่งเพื่อขอลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ติดตามความคืบหน้าแบบเรียลไทม์ หรือใช้ตัวเลือกอัตโนมัติ และยังสามารถส่งเอกสารได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ Dropbox Sign ช่วยให้ทุกคนเริ่มต้นใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในระดับใด
Dropbox Sign API
สำหรับองค์กรที่ต้องการผสานรวมลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้กับระบบที่มีอยู่โดยตรง Sign API มีโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้ คุณสามารถใช้ Sign API ในการปรับแต่งขั้นตอนการทำงานด้านลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ผสานรวมกับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม และปรับปรุงการจัดการเอกสารทั่วทั้งองค์กรของคุณ การผสานรวม Sign API เข้ากับระบบที่คุณใช้อยู่ไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้อย่างช่ำชองในด้านการเขียนโค้ด
ขั้นตอนที่ 3: นำไปใช้และปรับขนาด
เมื่อคุณเลือกเครื่องมือในการแปลงเป็นดิจิทัลแล้ว ก็ถึงเวลานำไปใช้และปรับขนาดตามความต้องการทางธุรกิจของคุณ
- การนำไปใช้: ทำงานร่วมกับทีมไอทีหรือผู้ให้บริการของคุณเพื่อผสานรวม Dropbox Sign หรือ Dropbox Sign API เข้ากับระบบที่คุณใช้อยู่ ฝึกอบรมพนักงานและให้การสนับสนุนที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น
- การปรับแต่ง: ปรับแต่งคุณสมบัติของ Dropbox Sign หรือ Dropbox Sign API ให้ตรงกับความต้องการทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงของคุณ ปรับแต่งขั้นตอนการทำงาน สิทธิ์ผู้ใช้ และการตั้งค่าความปลอดภัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการจัดการเอกสาร
- การปรับขนาด: เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น ใช้ประโยชน์จากความสามารถในการปรับขนาดของ Dropbox Sign หรือ Dropbox Sign API เพื่อรองรับปริมาณเอกสารที่เพิ่มขึ้นและความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ตรวจสอบตัวชี้วัดประสิทธิภาพและรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้ใช้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การจัดการเอกสารดิจิทัลของคุณอย่างต่อเนื่อง
ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มศักยภาพให้กับการแปลงเอกสารเป็นดิจิทัลและการจัดการเอกสาร
ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เป็นโซลูชันการลงนามในเอกสารอันทรงพลังที่ช่วยปรับปรุงกระบวนการแปลงเป็นดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถลงนามทางอิเล็กทรอนิกส์ได้จากทุกอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์ สแกน และส่งสำเนาทางไปรษณีย์ ทำให้ขั้นตอนการทำงานราบรื่นขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น
ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานและลดเวลาดำเนินงาน
ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างมากโดยจะขจัดความจำเป็นในการจัดการเอกสารที่เป็นกระดาษ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจและทำธุรกรรมได้เร็วขึ้นโดยการ:
- ลดเวลาการประมวลผล: ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขจัดปัญหาในการประมวลผลเอกสารด้วยตนเอง เช่น การพิมพ์ การส่งไปรษณีย์ และการจัดเก็บเอกสารด้วยตนเอง รวมถึงเป็นวิธีที่ดีในการเร่งรัดวงจรของขั้นตอนการทำงาน
- ปรับปรุงอัตราการตอบกลับ: ด้วยความสามารถในการลงนามในเอกสารจากอุปกรณ์ที่ใช้อินเทอร์เน็ต ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงสามารถตอบกลับได้รวดเร็วยิ่งขึ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
- ขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติ: โซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มักมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทำให้ขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการจัดการเอกสารเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงการส่งการเตือนความจำ การเก็บถาวรเอกสารที่เสร็จสมบูรณ์ และอีกมากมาย
เพิ่มความปลอดภัยและปรับปรุงการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างง่ายดาย
การผสานรวมลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับระบบการจัดการเอกสารของคุณไม่เพียงจะทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้น แต่ยังเสริมความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของเอกสารสำคัญอีกด้วย
- การเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง: แพลตฟอร์มลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงในการเก็บบันทึกและการปกป้องเอกสารจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต บางแพลตฟอร์มถึงกับมีการยืนยัน ID อิเล็กทรอนิกส์ (ข้อมูลระบุตัวตนของผู้ลงนาม) ในตัวด้วย
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: โซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการลงนามอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐฯ และ eIDAS ของสหภาพยุโรป เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารที่ลงนามแบบดิจิทัลจะมีผลผูกพันและเป็นที่ยอมรับตามกฎหมาย
- แนวทางการตรวจสอบ: ลายเซ็นดิจิทัลจะมีการบันทึกทุกการดำเนินการกับเอกสารอย่างละเอียด ทั้งผู้ลงนาม เวลาที่ลงนาม และสถานที่ลงนาม ซึ่งช่วยในการปฏิบัติตามข้อกำหนดและช่วยให้สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย
ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการทรัพยากร
การเปลี่ยนมาใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายที่มากับกระบวนการที่ต้องใช้กระดาษแบบดั้งเดิมได้อย่างมาก
- ค่าใช้จ่ายด้านวัสดุลดลง: ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษ หมึก และวัสดุอื่นๆ อีกต่อไป ส่งผลให้ประหยัดเงินได้จำนวนมาก
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลลดลง: เอกสารดิจิทัลไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่จัดเก็บทางกายภาพ ทำให้สำนักงานมีพื้นที่เพิ่มขึ้น และลดค่าใช้จ่ายที่มากับการจัดเก็บเอกสาร
- ค่าใช้จ่ายด้านแรงงานลดลง: กระบวนการลงนามอัตโนมัติช่วยลดชั่วโมงแรงงานที่จำเป็นในการจัดการขั้นตอนการทำงานด้านเอกสาร ตั้งแต่การเตรียมการไปจนถึงการจัดเก็บ
ปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างทีมและแผนกต่างๆ
ลายเซ็นดิจิทัลช่วยให้ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น โดยทีมต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่นไม่ว่าตัวจะอยู่ที่ใด
- เข้าถึงและแชร์ได้ทันที: สามารถลงนามและแชร์เอกสารระหว่างแผนกต่างๆ หรือจากสถานที่ต่างๆ ได้ทันที ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์
- การผสานรวมกับเครื่องมืออื่นๆ: โซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือทางธุรกิจยอดนิยมได้อย่างราบรื่น เช่น ระบบ CRM, ซอฟต์แวร์การจัดการโปรเจ็กต์ และแพลตฟอร์มการสื่อสาร ช่วยให้สายงานต่างๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การติดตามและตรวจสอบ: เครื่องมือดิจิทัลช่วยให้สามารถติดตามสถานะเอกสารได้ในแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทีมทราบความคืบหน้าของงานและลดเวลาที่ใช้ในการติดตามผล
การจะตามคู่แข่งให้ทันได้นั้นต้องอาศัยเครื่องมือที่ทำให้การดำเนินงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แต่เป็นการปรับปรุงให้กระบวนการทางธุรกิจมีความรวดเร็วขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และปรับขนาดได้อย่างไม่สิ้นสุด อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดส่งมอบงานได้เร็วขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้นในขณะที่มีอิสระในปฏิบัติงานได้จากทุกที่ทุกเวลา
Dropbox Sign สามารถช่วยคุณทำให้ขั้นตอนการทำงานและเอกสารของคุณเป็นดิจิทัลได้อย่างไร
อาจเป็นเรื่องยากที่รู้จะว่าควรเริ่มต้นแปลงเอกสารให้เป็นดิจิทัลที่ตรงไหน เคล็ดลับคือการมีเครื่องมือที่เหมาะสมไว้คอยช่วยเหลือ
คุณจะสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้เมื่อใช้ Dropbox Sign
- ผสานรวมลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับขั้นตอนการทำงานของคุณได้อย่างง่ายดาย
- เก็บบันทึก เอกสาร และแนวทางการตรวจสอบให้เป็นแบบดิจิทัล
- รักษาความปลอดภัยด้วยการตรวจสอบสิทธิ์ OAuth, การเข้ารหัส และการปฏิบัติตาม GDPR, ISO 27001 และ SOC 2 Type II
- ปรับแต่งขั้นตอนการทำงานด้านเอกสารด้วยฟิลด์ที่มีการเติมโดยอัตโนมัติ ตัวเลือกการสร้างแบรนด์ และอื่นๆ
- ปรับปรุงกระบวนการด้วยเทมเพลต การขอให้มีการฝังตัว และตรรกะเชิงเงื่อนไข
- ผสานรวมเข้ากับระบบที่คุณใช้อยู่และตั้งค่าได้อย่างราบรื่นด้วย API ที่ใช้งานง่ายของเรา
เมื่อเตรียมการพร้อมแล้ว Dropbox Sign สามารถช่วยให้องค์กรของคุณประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ต้องดำเนินการด้วยตนเองได้เป็นอย่างมาก ผลที่คุณจะได้รับคือ เอกสารดิจิทัลและขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม
แปลงขั้นตอนการทำงานด้านลายเซ็นของคุณเป็นดิจิทัลด้วย Dropbox Sign
Dropbox Sign สามารถทำให้กระบวนการลงนามเอกสารของคุณง่ายขึ้น ในขณะที่ Dropbox Sign API สามารถผสานรวมเข้ากับระบบของคุณได้อย่างราบรื่นเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานทางดิจิทัลของคุณ
การผสานรวมเครื่องมือเหล่านี้เข้ากับการตั้งค่าของคุณจะทำให้องค์กรของคุณประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ต้องดำเนินการด้วยตนเองได้เป็นอย่างมาก ขั้นตอนการทำงานของคุณจึงไม่เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย
สำรวจคุณสมบัติและประโยชน์ของโซลูชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของเราเพื่อหาสิ่งที่เหมาะกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ
ได้รับข้อมูลเสมอ
Thank you!
Thank you for subscribing!